top of page

Central Coffee Research Institute (CCRI) ของประเทศอินเดีย เตรียมเปิดตัวกาแฟสายพันธุ์ใหม่ S4594 และ S5086 แทนสายพันธุ์จันทรคีรีเดิม


Photo Credit : CCRI
Photo Credit : CCRI

สถาบันวิจัยกาแฟกลางของอินเดีย หรือ Central Coffee Research Institute (CCRI) ตั้งอยู่ที่เมือง Balehonnur / Chikkamagaluru รัฐคาร์นาตาก้า ประเทศอินเดีย ซึ่งเป็นแหล่งผลิตกาแฟอาราบิกาหลักของประเทศ (ราว 70 % ของผลผลิตกาแฟอาราบิกาของอินเดียทั้งประเทศ) เตรียมเปิดตัวสายพันธุ์กาแฟอาราบิกาใหม่ถึงสองสายพันธุ์ คือ “S4594” และ “S5086” ในงานครบรอบร้อยปีของ CCRI (Centenary) ซึ่งจะจัดในช่วงปลายปีนี้ ซึ่งนับว่าเป็นครั้งแรกในรอบ 18 ปีที่ CCRI เปิดตัวสายพันธุ์ใหม่ที่ “พัฒนาโดยงานวิจัยแบบครบวงจร” โดยก่อนหน้านี้มีสายพันธุ์ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายและมีเกษตรกรกาแฟของไทยนำเข้ามาปลูกคือสายพันธุ์จันทรคีรี (Chandragiri) ที่ถูกปล่อยมาตั้งแต่ปี 2007


กาแฟสายพันธุ์ S4594” และ “S5086 มีคุณสมบัติทนต่อแมลงและโรคที่สร้างความเสียหายให้กับผลผลิตกาแฟในช่วงหลายปีที่ผ่านมา การเปิดตัวครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของอุตสาหกรรมกาแฟอินเดีย ที่กำลังเดินหน้าสู่ยุคใหม่ของการผลิตที่ยั่งยืนและมีประสิทธิภาพมากขึ้น


Photo Credit : CCRI
Photo Credit : CCRI

“S4594” ได้รับการพัฒนาให้มีความทนต่อแมลง ‘white stem borer’ ซึ่งเป็นศัตรูสำคัญของกาแฟอาราบิกาในอินเดีย โดยเฉพาะในรัฐ Karnataka และ Kerala ที่สร้างความเสียหายให้กับฟาร์มกาแฟจำนวนมาก โดยสายพันธุ์ใหม่นี้ ได้รับการปรับปรุงพันธุกรรม โดยพัฒนามาจากสายพันธุ์ Selection 9 และ Cauvery cross ที่ CCRI ใช้ในโครงการคัดเลือกสายพันธุ์เชิงต้านทาน (Resistant Selection Programme) มีโครงสร้างต้นแข็งแรงกว่าและเปลือกหนา ทำให้แมลงเจาะต้นได้ยากขึ้นให้ผลผลิตใกล้เคียงกับสายพันธุ์เดิม (ประมาณ 1,200–1,300 กก./เฮกตาร์) แต่อัตราการสูญเสียผลผลิตจากแมลงลดลงกว่า 50 % โดยมีจุดเด่นคือลดความจำเป็นในการใช้ยาฆ่าแมลงหรือสารเคมี สามารถปลูกได้ดีในพื้นที่ที่มีอุณหภูมิสูงขึ้น (climate-resilient) และเหมาะสำหรับไร่กาแฟที่อยู่ในพื้นที่ 900 เมตรจากระดับน้ำทะเล


ส่วนสายพันธุ์ “S5086” เป็นกาแฟลูกผสมรุ่นแรก (F1 Hybrid) เป็นลูกผสมระหว่างสายพันธุ์ Chandragiri กับ Selection 5Bเมื่อรวมข้อดีของกาแฟสายพันธุ์ Chandragiri ซึ่งให้ผลผลิตดี และสายพันธุ์ 5B ที่มีความต้านทานโรคสูง ทำให้มีจุดเด่นที่มีความต้านทานโรคใบสนิม (Leaf Rust / Hemileia vastatrix) ระดับ “Moderate to High Resistance” และโรคแอนโธรคโนส (Anthracnose) ซึ่งเป็นโรคเชื้อราที่สร้างความเสียหายให้กับกาแฟในเขตร้อนชื้น มีโครงสร้างต้นกะทัดรัด ปลูกหนาแน่นได้ และให้ผลผลิตสูงกว่า Chandragiri ราว 10 % มีฟอร์มของผลสวย ขนาดเมล็ดใหญ่ และมี cup profile สมดุล (balanced cup with mild acidity & sweetness) โดยให้ผลผลิตเฉลี่ยในแปลงทดลองอยู่ที่ 1,360 กก./เฮกตาร์ มีคะแนน cupping เฉลี่ย 82–83 คะแนน (มาตรฐาน Specialty Coffee Association) มีอายุการให้ผลผลิตยาวนาน และฟื้นตัวเร็วหลังตัดแต่งกิ่ง ถือเป็นการตอบโจทย์สำคัญของเกษตรกรในพื้นที่สูงของอินเดีย ที่ต้องเผชิญกับปัญหาโรคระบาดในพืชกาแฟมาอย่างยาวนาน


“บางสายพันธุ์ของกาแฟมีคุณภาพโดยธรรมชาติ (inherent quality) ที่เกิดจากลักษณะทางพันธุกรรมของต้นกาแฟเอง การแปรรูปแบบแยกสายพันธุ์ (varietal processing) ช่วยรักษาและขับเน้นคุณลักษณะพิเศษนั้นให้โดดเด่นยิ่งขึ้น” จากคำกล่าวของ CCRI ที่ระบุอยู่ในเว็บไซต์ของ CCRI สามารถสะท้อนความหมายได้ว่า CCRI ยืนยันว่าการพัฒนา “สายพันธุ์เฉพาะ” (Variety-based Approach) คือหัวใจสำคัญของการสร้างคุณภาพกาแฟในอินเดีย และถือเป็นแนวทางหลักของ CCRI ในการคัดเลือกและปรับปรุงพันธุ์ใหม่อย่าง S4594 และ S5086


“สายพันธุ์กาแฟอาราบิกาใหม่ทั้ง 3 สายพันธุ์ ได้แก่ S5085, S5086 และ S5059 เป็นความพยายามล่าสุดของสถาบันในการยกระดับการเพาะปลูกกาแฟของประเทศ” ดร. M. Senthil Kumar, ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย สถาบันวิจัยกาแฟกลาง (CCRI) กล่าว

CCRI ยังระบุว่า ภายใต้โครงการ “Trait-specific clonal varieties of Arabica” CCRI ได้ทดลองสายพันธุ์ใหม่อย่าง S.5083-S.5086 ซึ่ง S.5086 มีผลผลิตเฉลี่ยในแปลงทดลอง (trial plots) ราว 1,360 กิโลกรัม/เฮกตาร์ เมื่อเทียบกับสายพันธุ์เดิมอีกด้วย


ความสำคัญในเชิงเทคนิคและเศรษฐกิจกับการพัฒนาสายพันธุ์ใหม่ทั้งสองสายพันธุ์นี้ เป็นผลจากงานวิจัยอันยาวนานของ CCRI ซึ่งในปี 2025 จะครบรอบ 100 ปี ของการก่อตั้งสถาบัน โดยงานเปิดตัวสายพันธุ์ใหม่นี้ จะเป็นส่วนหนึ่งของการเฉลิมฉลองดังกล่าว นักวิจัยคาดว่าสายพันธุ์ S4594 และ S5086 จะช่วยลดการใช้สารเคมีกำจัดแมลงลงได้ พร้อมทั้งเพิ่มผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่ให้สูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อทั้งเกษตรกรและสิ่งแวดล้อม


Photo Credit : CCRI
Photo Credit : CCRI

การเปิดตัวสายพันธุ์ใหม่ของ CCRI มีนัยสำคัญต่อการฟื้นฟูอุตสาหกรรมกาแฟอินเดียด้วยเช่นกัน ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมา อินเดียต้องเผชิญกับปัญหาผลผลิตตกต่ำในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ด้วยสายพันธุ์ใหม่ที่ให้ผลผลิตสูงและทนทานต่อโรคมากขึ้น คนในอุตสาหกรรมการผลิตกาแฟของอินเดียคาดว่าจะเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดกาแฟโลก และสร้างชื่อเสียงในฐานะประเทศผู้ผลิตกาแฟอาราบิกาที่มีคุณภาพสูงได้


การเปิดตัว S4594 และ S5086 ถือเป็นสัญญาณว่า อินเดียกำลังก้าวเข้าสู่ “ยุคใหม่ของกาแฟสายพันธุ์ยั่งยืน” ที่เน้นผลผลิตสูง คุณภาพดี และปลูกได้ในสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลง และอาจเป็นต้นแบบสำคัญให้ประเทศผู้ผลิตอื่น ๆ — รวมถึงประเทศไทยเอง ในการพัฒนาสายพันธุ์กาแฟที่เหมาะสมกับภูมิประเทศและภูมิอากาศของตนเอง


---


แหล่งข้อมูลอ้างอิง

– Times of India (2025), 'To mark centenary, Coffee Board to launch two high-yield, pest-resistant varieties.'

– Coffee Board of India, Annual Report 2022-23.

– The New Indian Express, 'CCRI researchers focus on four climate-resilient coffee varieties.'



เป็นนิตยสารรายสองเดือน ที่จัดพิมพ์ขึ้นเพื่อเป็นการส่งผ่านความรู้ทางด้านกาแฟ

และเสริมมุมความคิดในด้านธุรกิจกาแฟ

- - -

Facebook : Coffee Traveler

Youtube : Coffee Traveler

Comments


bottom of page