top of page

ความสามารถของผึ้ง ให้ผลผลิตกาแฟอันน่าทึ่งกับเกษตรกร 🐝

Updated: Apr 23, 2021

ทุกสิ่งรอบตัวล้วนมีความสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน ในที่นี้เรากำลังจะพูดถึงความหลากหลายทางชีวภาพที่แหล่งรวมความหลากหลายนี้เริ่มจะลดน้อยถอยลงนั่นก็คือ “ป่า” เนื่องจากการตัดไม้ และการรุกล้ำพื้นที่ป่าเพื่อทำเป็นพื้นที่เกษตรกรรม แน่นอนว่าสิ่งที่ตามมาคือผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เช่น ดิน น้ำ สัตว์หรือแม้แต่แมลงตัวเล็กๆ ที่เป็นตัวช่วยผสมเกสร ซึ่งเรามักจะมองข้ามในเรื่องของแมลงผสมเกสรที่ช่วยในการผสมเกสรดอกไม้ ทำให้จำนวนของพวกมันลดลง เนื่องจากถูกยาฆ่าแมลงหรือยาฆ่าศัตรูพืช และสารป้องกันกำจัดโรคพืช โดยเฉพาะผึ้งซึ่งเป็นแมลงผสมเกสรที่สำคัญที่สุด เพราะในตอนที่ผึ้งออกหาเกสรหรือน้ำหวาน ผึ้งจะไปที่ดอกไม้ชนิดใดชนิดหนึ่งเท่านั้น ทำให้ไม่เกิดการปะปนหรือสูญเสียของละอองเกสร ในข้อนี้ทำให้ผึ้งเป็นแมลงผสมเกสรที่สำคัญและยังสามารถช่วยเกษตรกรเพิ่มผลผลิตได้อีกด้วย


กาแฟอราบิกามีความอุดมสมบูรณ์ในตัวเองอยู่แล้ว แต่การผสมเกสรของผึ้งจะช่วยเพิ่มปริมาณและคุณภาพของผลผลิต


ในเรื่องของกาแฟนั้นผึ้งสามารถช่วยเพิ่มผลผลิตและคุณภาพได้ถึง 40% กาแฟโรบัสตาต้องการการผสมเกสรโดยลมและแมลง หากไม่มีการผสมเกสรผลผลิตและคุณภาพอาจจะไม่ดีเท่าที่ควร ส่วนกาแฟอาราบิกามีความอุดมสมบูรณ์ในตัวเองอยู่แล้ว แต่การผสมเกสรของผึ้งจะช่วยเพิ่มปริมาณและคุณภาพของผลผลิต ซึ่งในประเทศไทยเองก็มีวิจัยในเรื่องนี้โดยศูนย์เชี่ยวชาญนวัตกรรมเกษตรสร้างสรรค์ สถานีวิจัยลำตะคอง ได้ทำการวิจัยเรื่องการเพิ่มปริมาณผลผลิตและคุณภาพของกาแฟอาราบิกาโดยการใช้แมลงผสมเกสร คณะวิจัย วว. (สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย) ได้ดำเนินการวิจัย ณ หมู่บ้านขุนลาว ตำบลแม่เจดีย์ อำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย บนเทือกเขาสูงกว่า 1,300 เมตร ซึ่งเป็นพื้นที่ปลูกกาแฟอาราบิกาแบบใต้ร่มเงาไม้ โดยไม่ใช้สารเคมี ทางคณะผู้วิจัยได้ใช้ผึ้งชันโรงหรือผึ้งจิ๋ว ซึ่งเป็นแมลงผสมเกสรในกลุ่ม ผึ้ง และต่อแตน ที่มีประสิทธิภาพในการผสมเกสรดอกกาแฟและพบว่าผึ้งชันโรงทำให้ผลเชอร์รีกาแฟสุกสม่ำเสมอมากขึ้น ทำให้ได้กาแฟที่มีรสชาติและกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยเฉพาะเมื่อนำกาแฟมาคั่วแบบ Light roasted จะทำให้ได้รสชาติและกลิ่นของกาแฟมากที่สุด



เช่นเดียวกับหมู่บ้านแม่หางหลวง ตำบลป่างิ้ว อำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย ตั้งอยู่ในระดับความสูง 1,200 เมตรจากระดับน้ำทะเล และอยู่ในพื้นที่ป่าต้นน้ำแม่ลาว ปลูกกาแฟพันธุ์ Bourbon, Catimor, และ Typica ที่มีอยู่ในพื้นที่อยู่แล้ว อดีตพ่อหลวง (ผู้ใหญ่บ้าน) ที่ได้ทดลองเลี้ยงผึ้งหลวง และผึ้งโพรงเพื่อหวังเก็บน้ำผึ้งและรังผึ้งให้เป็นรายได้เสริมของชาวบ้าน กลับพบว่าผึ้งมีส่วนช่วยในการผสมเกสรของดอกกาแฟ



ซึ่งในหมู่บ้านปลูกกาแฟแบบใต้ร่มเงาไม้ในระบบวนเกษตรอินทรีย์ ผึ้งที่เลี้ยงไว้ใกล้ๆ สวนกาแฟก็ไปช่วยผสมเกสรทำให้ต้นกาแฟออกดอกมาก ส่งกลิ่นหอมฟุ้งไปทั่วสวนเลยทีเดียว ซึ่งผึ้งจะมาปีละครั้ง และมาช่วงกุมภาพันธ์ - มีนาคม เพื่อหาที่อยู่หรือทำรัง 2-3 รอบ ผึ้งหลวงมาอยู่ในพื้นที่นี้ทุกปี แต่ขึ้นอยู่กับฝนด้วย ถ้าฝนมาเร็วดอกไม้ป่าก็เกิดเร็ว ผึ้งก็จะมาเยอะซึ่งผึ้งจะมาเยอะมาน้อยขึ้นอยู่กับดอกไม้ในป่าหรือในท้องถิ่น


“เราปลูกกาแฟแบบใต้ร่มเงาไม้ที่ไปช่วยเสริมให้ป่ามีความสมบูรณ์ และเมื่อป่าสมบูรณ์ผึ้งก็จะมาอยู่ด้วยตลอด ผึ้งก็จะรักป่า เหมือนที่เรารักป่า นั่นทำให้เราอยู่ด้วยกันได้”


ส่วนผึ้งโพรงจะอยู่กับโพรง เป็นปีๆ หรืออยู่ข้ามปี ซึ่งถ้าโพรงดีไม่มีอะไรรบกวนก็จะอยู่นาน และในทุกๆ ปีชาวบ้านจะทำโพรงผึ้งเพื่อรอผึ้งในปีต่อไป และเนื่องจากที่นี่ปลูกกาแฟอินทรีย์โดยปราศจากการใช้สารเคมี ประกอบกับความช่วยเหลือของผึ้งในการช่วยผสมเกสรดอกกาแฟ ทำให้คาแรคเตอร์ของกาแฟที่นี่เป็นเอกลักษณ์ที่ได้กลิ่นหอมของดอกไม้ป่าและกลิ่น Fruity ค่อนข้างชัด และมีผลผลิตที่สม่ำเสมออีกด้วย ซึ่งการทำงานร่วมกันของความหลากหลายทางชีวภาพนี้ มีส่วนช่วยทำให้ชาวบ้านหวงแหนป่า พ่อหลวงบอกว่า “ถ้าไฟไหม้ป่า ชาวบ้านจะรีบเข้าไปช่วยกันดับไฟทันที เพราะถ้าไฟไหม้ต้นกาแฟก็จะได้รับความเสียหาย รวมถึงผึ้งด้วย ถ้าไฟไหม้ป่าผึ้งก็จะหนีไปหมด” ผึ้งจึงเป็นอีกตัวแปรสำคัญที่ช่วยให้กาแฟของชาวบ้านมีคุณภาพ พ่อหลวงยังบอกอีกว่า “เราปลูกกาแฟแบบใต้ร่มเงาไม้ที่ไปช่วยเสริมให้ป่ามีความสมบูรณ์ และเมื่อป่าสมบูรณ์ผึ้งก็จะมาอยู่ด้วยตลอด ผึ้งก็จะรักป่า เหมือนที่เรารักป่า นั่นทำให้เราอยู่ด้วยกันได้”


"ผึ้ง" จึงมีคุณค่าต่อเกษตรกร

และสร้างความยั่งยืนในเรื่องของรายได้ไปพร้อมๆ กับการปลูกกาแฟ


ความสัมพันธ์ของผึ้งและกาแฟนอกจากจะเอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกันแล้ว ยังส่งผลมาที่เราในหลายด้านอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นคุณภาพของกาแฟที่ดีขึ้น ผลผลิตที่มากขึ้น รวมไปถึงรายได้เสริมจากผึ้งที่เปรียบเสมือนเป็นอีกแรงหนึ่งที่ช่วยให้สวนกาแฟมีความอุดมสมบูรณ์ ดังนั้นแมลงผสมเกสรประจำถิ่นตามธรรมชาติ เช่น ผึ้ง จึงมีคุณค่าต่อเกษตรกรและสร้างความยั่งยืนในเรื่องของรายได้ไปพร้อมๆ กับการปลูกกาแฟ

164 views0 comments
bottom of page