top of page

ร้านกาแฟน่านอ่วม สถานการณ์น้ำท่วมหนักสุดในรอบร้อยปี

ฝนตกหนักช่วงที่ผ่านมา ทำให้ระดับน้ำในจังหวัดน่านเพิ่มสูงและทะลักท่วมบ้านเรือน ประชาชนหลายพื้นที่ได้รับผลกระทบหนัก บางพื้นที่น้ำท่วมสูงถึงระดับอก หรือสูงกว่าที่เคยท่วมขังในอุทกภัยครั้งก่อน ๆ และอาจจะหนักที่สุดในรอบร้อยปี ธุรกิจและร้านค้าหลายเจ้าประกาศปิดบริการ บางที่ปิดจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น ครั้งนี้เองทางเราจึงอยากนำเสนอเรื่องราวสองแง่มุมของเจ้าของร้านกาแฟในจ.น่านที่ได้รับผลกระทบโดยตรงอย่างร้านน.น่าน คาเฟ่ และร้าน Lalana Cafe


“หนักสุดในรอบร้อยปี หนักแบบไม่เคยเจอมาก่อน ทุกคนก็ไม่คิดว่ามันจะหนักขนาดนี้ ก็พยายามระวังแล้ว เราก็ยกขึ้นที่สูงกว่าปีที่แล้วแล้ว แต่มันหนักกว่านั้นอีก มันมิดชั้นหนึ่งอะไรเงี้ย ก็ท่วมไปหมดเลย อะไรอย่างเงี้ยครับ หนักมาก แต่ละคนนี่ ผู้ประกอบการร้านกาแฟหลายร้านนี้มิดร้านแน่นอนครับ”


ree

คุณแจ็ค เจ้าของกิจการร้านกาแฟ น.น่าน คาเฟ่ และโรงคั่วกาแฟ น.น่าน เปิดเผยกับทางนิตยสาร Coffee Traveler ถึงสถานการณ์น้ำท่วมหนักในจ.น่าน และยังบอกเพิ่มเติมว่าอีกสองร้านอย่าง Local bean กับกาแฟไร่ดอยน่าน ที่เขาเป็นเจ้าของก็ท่วมหนักเช่นกัน “ส่วนตัวก็ท่วมไป 3 ร้าน ร้านที่ไม่เคยท่วมก็ท่วม ร้านที่ไม่เคยท่วม เราก็ไม่ได้ระวังมาก เพราะจากปีที่แล้วที่ว่าขึ้นสูง มันก็ยังไม่ถึง แต่ปีนี้มันมาหมดเลย ก็จมหมดเลย”


“อันนี้ปลอดภัยครับ เพราะว่าตรงนี้มันอยู่สูงมาก ตรงนี้นี่ถ้าโดน ทั้งเมืองน่าจะจมน้ำ แล้วก็เราก็ ถ้าตรงนี้โดนคือเราก็หมดตัวเหมือนกัน กาฟงกาแฟเอย อยู่นี่หมด” เมื่อถามถึงโรงคั่วกาแฟที่เจ้าของ แต่ขณะเดียวกันก็ยังแสดงถึงความกังวลต่อสถานการณ์พายุฝนฟ้าคะนองในตอนนี้ว่า “ตอนนี้มันหยุดแล้วครับ แต่ว่าน้ำเหนือมันไหลมาเรื่อย ๆ แล้วก็ไม่รู้ว่ามันจะตกมาอีกหรือเปล่า เห็นดูในเพจพยากรณ์อากาศ บอกว่าจะตกอยู่ ก็เสียว ๆ อยู่ ไม่อยากคิดสภาพว่า ตอนนี้มันกําลังเริ่มต้นเข้าฤดู ถ้ามันมาอีกนี่ โอ้โห ไม่รู้ยังไง แต่ปีนี้มันตกตั้งแต่เมษาไง ก็คิดไว้ละแต่ไม่คิดว่ามันจะหนักขนาดนี้ มีแค่ลูกแรกนะ ไม่รู้ว่ามันจะมีมาอีกหรือเปล่า”


จากเหตุการเมื่อปีก่อนที่น้ำท่วมหนักที่จ.น่านก็ทำให้คุณแจ็คเตรียมรับมือ แต่สถานการณ์ตรงหน้ากลับหนักกว่าที่คาดไว้ “เตรียมครับ วันที่มา(กระแสน้ำ)เราก็ขนของขึ้นชั้น 2 แต่บางส่วนที่หนัก ๆ เราก็สงสารทีมงาน พวกชั้นลอยอะไรเงี้ย เพราะว่าปีที่แล้วอะ มันขึ้นมาครึ่งเคาน์เตอร์ เราก็คิดว่าปีนี้เต็มที่ก็ถึงเคาน์เตอร์แหละวะ ที่ไหนได้ชั้นหนึ่ง เรียบร้อย แล้วบางร้านก็คือมันไม่เคยถึงอยู่แล้วไง เราก็คิดว่ายังไงก็ไม่ถึง สรุปว่าก็เรียบร้อยเหมือนกัน ก็ลุ้นอยู่ว่ามันจะถึงเครื่องชงไหมอีกร้านนึง ยังเข้าไปดูไม่ได้ น่าจะพรุ่งนี้ แต่อีกร้านนึงนี่น่าจะไม่เหลือละ ดูสภาพแล้วน่าจะมิดอยู่” ซึ่งสร้างความเสียหายที่เกิดขึ้นกับร้านของเขาเกินคาดหวัง คุณแจ็คก็บอกต่อ “(อุปกรณ์ภายในร้าน) แช่น้ำหมดแล้ว ไม่รู้จะแก้ไขยังไง ถ้าเป็นสื่อกลางแล้วแบบ มีช่างมาออกสนามที่น่าน คิดค่าใช้จ่ายอะไรก็ว่ากันไปก็ยังดี เพราะว่าในน่านน่าจะมีช่างเก่งอยู่คนเดียวที่รับงาน แล้วพวกร้านกาแฟในน่านนี้ น่าจะหนักกันอยู่หลายร้าน เพราะว่าบางคนไม่คิดว่ามันจะมาถึงไง เล่นซะมิดเลยอันนี้ รถยนต์นี่น่าจะหนักสุด เพราะว่าแต่ละคนก็คิดว่าย้ายไปที่สูงแหละตรงนี้ไม่น่าถึง ปรากฏเรียบร้อยหมด ส่วนตัวผมมันหลายร้านด้วยเนาะ กว่าจะเข้าที่ก็อาจเป็นเดือนนู้นนะ ดูละ กว่าจะไล่เคลียร์ของอะไรอย่างงี้เนาะ แต่ว่าร้านที่มีลูกค้า เสียหายน้อย พยายามเร่งให้มันเสร็จเร็วที่สุด ส่วนร้านที่มันหนัก ๆ ที่ว่ามันมิดชั้นหนึ่งก็ค่อย ๆ ทยอยเคลียร์ไปตามสภาพ ได้แต่ยอมรับ ทำอะไรไม่ได้”


ส่วนแผนการที่จะฟื้นฟูร้านต่อจากนี้คุณแจ็คก็บอกว่า “ก็เดี๋ยวไปเคลียร์ของก่อน เดี๋ยวน้ำลด เข้าได้ก็ไปเคลียร์ของ ถ้าเครื่องชงต้องซ่อมก็ติดต่อพรรคพวกไว้อยู่บ้าง ก็รีบยกไปให้เขา ค่อยเคลียร์ทำความสะอาดไป ไหนใช้ได้ ซ่อมได้ก็ซ่อม อันไหนไม่ได้ก็ทิ้งครับ เคลียร์ร้านละ เปิดไปร้านที่หนัก ๆ ก็ต้องพิจารณาแล้วว่าจะอยู่ต่อมั้ย เพราะร้านผมโดน 2 ปีละ ร้านที่ว่าหนักเนี่ยนะ ปีที่แล้วท่วมปีนี้ก็โอ้โหแย่ รุ่นน้องที่ร้านทำขนมที่แชร์ในเพจเยอะ ๆ Lalana นั่นน่ะ อันนั้นมิดหลังคาสอง 2 ปีละ หนักหน่วง “

เมื่อถามกับคุณแจ็คว่าได้เรียนรู้กับสถานการณ์ครั้งนี้ได้สอนอะไรกับเขา “ธรรมชาติมันเอาแน่เอานอนไม่ได้ แล้วก็ภัยธรรมชาติมันหนักขึ้นเรื่อย ๆ อย่างน้ำท่วมเนี่ยที่บอกว่าท่วมมานานเนี่ย ปกตินี่สิบปีมีครั้ง มันยังพอแบบโอเค 10 ปีเราหนัก ๆ สักทีนึง แต่อันนี้ ปีที่แล้วว่าหนักแล้ว ปีนี้คูณขึ้นไปอีก 2 เท่าอะไรอย่างเงี้ย ไม่มีอะไรแน่นอนเลยจริง ทําไรต้องแบบ คิดเผื่อเยอะ ๆ และได้ยินเรื่องพายุนี่ก็ต้องแบบระวังเตรียมพร้อมแบบเต็ม 10 เพราะเอาอะไรไม่ได้เลย ทุกคนในน่านนี้นะเสียหายเยอะ“ และแนวทางในอนาคตของร้านที่อาจเปลี่ยนแปลงไป ”ตอนแรกก็ไม่เปลี่ยนแปลงหรอก มันเป็นอาชีพเรา แต่ว่าการที่จะเปิดร้าน จะลงทุนทำอะไรตรงไหนก็ต้องวางแผนละ และอย่างที่ว่าร้านเนี่ยก็ไม่ได้ขายดีมากหรอก น้ำท่วม 2 รอบละ เราก็คิดละว่าเอาไงต่อดีวะ ดูทำเลที่ปลอดภัย น้ําไม่ท่วม ถ้าจะทำอะไรต้องคิดเผื่อไว้ หรือว่าแบบถ้ามันจะท่วมมันจะมูฟของได้เร็วยังไง ให้เสียหายน้อยอะไรอย่างเงี้ย”



ในขณะที่อีกฝั่ง อย่างร้าน Lalana Cafe ที่เป็นที่พูดถึงอย่างกว้างขวางในโลกอินเตอร์เน็ต จากสถานการณ์น้ำท่วม จ.น่านเมื่อปีที่ผ่านมา แม้ปีนี้ทางร้านก็ได้รับผลกระทบกับน้ำท่วมสูงก็เช่นกัน แต่ความแตกต่างรอบนี้คือทางร้านเตรียมความพร้อม และมีขนย้ายข้าวของเกือบทั้งหมดได้ทัน “ตัวร้านได้รับความเสียหายเต็ม ๆ ค่ะ อุปกรณ์ไฟฟ้าก็จะมีแค่แอร์ค่ะ และเฟอร์นิเจอร์บ่างส่วนค่ะ เพราะก่อนหน้านี้ขนของออกมาแล้ว 90% ค่ะ ถึงจะเอาของออกมา 90% แล้วก็ยังกังวลเรื่องความเสียหายของตัวอาหาร และของที่เหลืออยู่ดีค่ะ และพวกต้นไม้ที่สนามหน้าบ้านด้วยกลัวเค้าตายและไม่รอดค่ะ เพราะท่วมหลายวันเกิน คาดว่า 1-2 เดือนค่ะ กว่าจะกลับมาเปิดอีกครั้งก็คงให้เป็นช่วงปลายฝนก่อนค่ะ น้ำท่วมครั้งนี้ทำให้เราตระหนักว่า การทำธุรกิจไม่ใช่แค่เรื่องของรสชาติกาแฟหรือบรรยากาศร้าน แต่ยังรวมถึงการวางแผนรับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดคิดค่ะ”


“เบื้องต้นมีแต่ช่วยเหลือตัวเองค่ะ และหลังจากนั้นก็เพื่อน ๆ พี่ ๆ มาช่วงแจกข้าวแจกน้ำค่ะ เนื่องจากขนของออกทันและไม่มีใครติดอยู่ที่ร้าน เลยไม่ได้มีการช่วยเหลืออะไรเพิ่มเติมค่ะ แต่ทราบมาว่าหลาย ๆ พื้นที่ได้รับการช่วยเหลือแต่จากเอกชนค่ะ เหตุการ์ณจากที่ปีแล้วที่ท่วมหนักเหมือนกัน ไม่ได้รับการช่วยเหลือจากรัฐค่ะ มีช่วยมานะคะ แต่เงื่อนไขเยอะมาก เลยไม่ได้รับอะไรจากรัฐค่ะโดยไม่มีเงื่อนไขเลยค่ะ” ทางร้าน Lalana Cafe เปิดเผยถึงความช่วยเหลือจากหน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน ที่ทางร้านอยากให้มาช่วยเยียวยาในส่วนของความเสียหายที่เกิดให้ทั่วถึงและแบบไม่มีเงื่อนไข


สำหรับความกังวลและแผนการณ์เตรียมความพร้อมที่ทางร้าน Lalana Cafe อยากจะบอกให้ผู้ประกอบการหลายคนรับรู้ คือ ความไม่ชะล่าใจ “ก็อย่าชะล่าใจค่ะ และเตรียมแผนสำรองไว้เสมอค่ะ แพลนเรื่องที่จะทำไว้ ก่อนน้ำท่วม ของที่จะขน ลำดับการขน พื้นที่จะเก็บของ หลังน้ำลด ทำความสะอาด และจัดลำดับการดำเนินการซ่อมแซมของที่เสียหาย เขียนเป็น Check list ไว้เลยค่ะ ถ้าเราไม่มีแผน ธุรกิจของเราจะหยุดชะงักนานไปค่ะ ติดตามข่าวเกี่ยวกับสภาพอากาศ ดูจาก App และเวลาฝนตกหนัก ๆ ติดต่อกัน จะเช็คระดับน้ำอยู่ตลอดเวลาค่ะ จาก App เช่นกัน ค่อนข้างแม่นยำค่ะ และถ้าระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่งในจุดที่ต่ำมาก ๆ แล้วก็ไปขนของออกมาค่ะ สำหรับของที่ร้านนะคะ ก็กังวลท่วมซ้ำอีกรอบค่ะในช่วงฤดูฝนที่ยังเหลืออยู่ค่ะ เพราะนี้แค่ต้นฤดู ถึงน้ำจะลดแล้ว แต่ความชื้น พื้นผุ หรือโครงสร้างร้านที่เสียหาย อาจยังไม่แสดงผลทันที ต้องใช้เวลาและงบซ่อมแซมที่สูง ทั้งค่าเสียหาย ค่าสินค้าเสียหาย ค่าแรงทีมงานในวันที่ร้านเปิดไม่ได้ รวมถึงรายได้ที่ขาดหายช่วงน้ำท่วม อาจสะสมจนกลายเป็นภาระระยะยาว หลายคนเริ่มถามว่า ‘แล้วถ้าเกิดขึ้นอีกครั้งล่ะ?’ ต้องปรับตัวถาวรไหม เช่น ย้ายร้าน ปรับพื้นที่ให้สูงขึ้น หรือเพิ่มต้นทุนเรื่องระบบกันน้ำ ซึ่งไม่ใช่เรื่องเล็กเลยค่ะ”


จากบทสัมภาษณ์ของทั้งสองกิจการในสถานการณ์ที่ถูกขนานนามว่าหนักสุดในรอบร้อยปี ได้แสดงให้เห็นถึงความเสียหายอย่างแสนสาหัสและเกินความคาดหมายให้กับผู้ประกอบการร้านกาแฟหลายราย แม้น้ำจะลดลงแล้ว แต่ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับตัวร้าน อุปกรณ์ และสินค้า รวมถึงความกังวลเรื่องการฟื้นฟูที่ต้องใช้เวลาและงบประมาณมหาศาล ยังคงเป็นภาระหนักอึ้งที่ผู้ประกอบการต้องแบกรับ ขณะที่ภัยธรรมชาติกำลังทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ และเอาแน่เอานอนไม่ได้ และส่วนท้ายนี้ทาง Coffee Traveler ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนในสถานการณ์น้ำท่วมในครั้งนี้ และผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยดี



Comments


bottom of page