ภายในงานแสดงสินค้าอุปกรณ์เครื่องใช้อาหารและเครื่องดื่มสำหรับโรงแรมและธุรกิจอาหาร ปีที่ 12
หรือ TRAFS 2018 ที่จัดขึ้น ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค ระหว่างวันที่ 12-15 กรกฎาคม 2561 ที่ผ่านมา ได้มีการจัดแข่งขันชงกาแฟไซฟอนครั้งแรกของประเทศไทย Thailand National Siphonist Championship 2018 เพื่อหาตัวแทนคนแรกของไทยไปแข่งขันในรายการ World Siphonist Championship 2018 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น โดยผู้ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ เป็นตัวแทนของ
ประเทศไทยในครั้งนี้ ได้แก่ คุณแนต – กษมา กันบุญ จากร้าน NANA Coffee Roaster ผู้หลงใหล
การชงกาแฟแบบฟิลเตอร์ (Filter)
นับเป็นครั้งแรกของประเทศไทยมีการส่งตัวแทนบาริสต้าไปแข่งขันในรายการ World Siphonist Championship 2018 ซึ่งจัดขึ้นเป็นปีที่ 10 และอย่างเกินความคาดหมายของการแข่งขันครั้งแรก
เพราะคุณแนต สามารถคว้ารางวัลชนะเลิศ เป็นแชมป์โลกการชงกาแฟไซฟ่อน สร้างชื่อเสียง
ให้กับวงการกาแฟไทยในเวทีโลกได้สำเร็จ
เตรียมตัวก่อนลงสนามในเวทีโลก
หลังจากที่คว้ารางวัลชนะเลิศจากประเทศไทยแล้ว คุณแนตมีเวลาฝึกซ้อมและเตรียมตัวสำหรับ
การแข่งขันในเวทีโลกเพียง 1 เดือน ฝึกกับเครื่องชงรุ่นที่ใกล้เคียงกับเครื่องที่จะถูกใช้ในการแข่งขัน
พัฒนาเมล็ดกาแฟให้ได้รสชาติดีที่สุดในแบบที่ต้องการ พร้อมกับคิดค้นเทคนิคใหม่ๆ ที่ยังไม่มีใครเคยทำ
“ทางญี่ปุ่นมีการส่งสเป็ก รูป พร้อมข้อมูลการใช้เครื่องชงที่จะใช้ในการแข่งขันให้เราทราบก่อน
เป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งเป็นรุ่นที่มีกำลังไฟแตกต่างจากบ้านเราและเป็นรุ่นที่ราคาค่อนข้างสูง
เราจึงต้องซ้อมกับเครื่องชงรุ่นที่รองลงมาจากตัวที่จะใช้แข่งจริง และเมื่อถึงวันแข่งปรากฏว่าปุ่มกดต่างๆ บนเครื่องเป็นภาษาญี่ปุ่นทั้งหมด โชคดีที่โค้ชของเราสามารถสื่อสารภาษาญี่ปุ่นได้ และเราได้มิตรภาพ
ที่น่ารักจากผู้เข้าแข่งขันชาวญี่ปุ่นที่ช่วยสอน ช่วยแนะนำว่าที่เราเข้าใจนั้นถูกต้องหรือไม่ ซึ่งก็ค่อนข้างตรงกับที่เราได้ฝึกซ้อมและวางแผนเอาไว้”
การแข่งขันกาแฟไซฟ่อน
รูปแบบการแข่งขันไซฟ่อนแตกต่างจากการแข่งขันรายการอื่น เนื่องจากมีการแข่งเพียงรอบเดียวและประกาศผู้ชนะเลิศทันที จึงต้องอาศัยความละเอียดในทุกกระบวนการเพื่อให้เกิดข้อผิดพลาดน้อยที่สุด และเพื่อให้ได้กาแฟรสชาติดีที่สุดสำหรับเสิร์ฟให้กับกรรมการ โดยมีการให้คะแนนในเรื่องของรสชาติ ความบาลานซ์ ฯลฯ เช่นเดียวกับการแข่งขันกาแฟในรายการอื่น พร้อมการนำเสนอให้ตรงกับรสชาติของกาแฟที่สกัดออกมาได้
“จุดเด่นที่ทำให้เราได้รางวัลชนะเลิศคือรสชาติ ซึ่งเราได้คะแนนในส่วนนี้สูงมาก เพราะในช่วงของการ
เตรียมตัวเรามีการพัฒนาการเบลนด์กาแฟร่วมกับคนคั่ว มีทีมที่มาช่วยกันคิดค้นเทคนิคและวิธีการต่างๆ และเราเองก็ได้ทำความเข้าใจกับกาแฟของเราไปด้วยในระหว่างที่เราฝึกซ้อม เราจึงรู้ว่ากาแฟของเรา
จะอร่อยแบบไหน และเราก็พยายามสกัดออกมาให้ได้รสชาติที่ดีที่สุด”
ตัวแทนจากแต่ละประเทศจะต้องชงกาแฟทั้งหมด 2 เมนู คือ Coffee Blend และ Signature Drink
ซึ่งคุณแนตใช้เมล็ดกาแฟที่เบลนด์จากกาแฟเกอิชา จ.น่าน 30% กาแฟจาก Nine One Coffee 50%
และอีก 20% เป็นกาแฟจากปานามา เพื่อทำเมนู Coffee Blend ส่วน Signature Drink ซึ่งเป็นเมนู
ที่คุณกานดาเป็นผู้คิด มีการนำส่วนผสมของผลไม้ใส่ลงไปในกาแฟ เห็นได้ชัดว่า นี่เป็นอีกครั้งที่กาแฟไทยได้แสดงศักยภาพบนเวทีระดับโลก และคุณกษมาเห็นว่านี่คือผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจเป็นอย่างมาก
“กาแฟไทยเริ่มมีการพัฒนาขึ้นทุกๆ ปี การที่เราได้แชมป์โลก เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เกษตรกร
มีแรงบันดาลใจในการทำกาแฟให้ดียิ่งขึ้น หากย้อนกลับไป 3 ปีที่แล้ว กาแฟไทยยังไม่ดีเท่าตอนนี้เลย เราได้เห็นว่าเกษตรกรหลายท่านเริ่มมาเรียนรู้เรื่องการ Cupping ที่ร้านเยอะขึ้น เพื่อนำความรู้ที่ได้
ไปปรับปรุงการทำกาแฟของตัวเองให้ดีขึ้น จึงมองว่า อนาคตกาแฟไทยน่าจะได้เข้าไปอยู่ในเวทีโลก
ได้ไม่ยาก และตอนนี้ต่างประเทศก็อยากจะรู้จักกาแฟไทยมากขึ้น”
การคว้าแชมป์ในเวทีโลกสำหรับการแข่งขันในครั้งแรกนี้ อาจจะกลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับบาริสต้าและวงการกาแฟไซฟ่อนในประเทศไทยให้คึกคักขึ้น เกิดการพัฒนาฝีมือการชงกาแฟไซฟ่อนและพัฒนาคุณภาพของเมล็ดกาแฟไทยเพื่อก้าวสู่เวทีโลกต่อไป
Comentarios