สูตรลับสุดครีเอทฉบับ Sarawut Manngan (Bank SM)

" บาริสต้าเจ้าของถ้วยแชมป์ลาเต้อาร์ตไม่น้อยกว่า 15 ใบ ดีกรีแชมป์ลาเต้อาร์ตประเทศไทยและอันดับ 5 จากการแข่งขันลาเต้อาร์ตระดับโลก World Latte Art Championship 2024 "

‘บาริสต้าเจ้าของถ้วยแชมป์ลาเต้อาร์ตไม่น้อยกว่า 15 ใบ ดีกรีแชมป์ลาเต้อาร์ตประเทศไทย และอันดับ 5 จากการแข่งขันลาเต้อาร์ตระดับโลก World Latte Art Championship 2024’

นี่คือประโยคที่สรุปตัวตนของ แบงค์ - ศราวุธ หมั่นงาน Idol ของเราในฉบับนี้ ที่นิตยสาร Coffee Traveler มีโอกาสได้พูดคุยด้วยในงาน Coffee Traveler ชวนมา Mun ครั้งที่ 1 “Latte Love Fest” ซีคอนสแควร์​ ศรีนครินทร์ หลังจากที่แบงค์ตอบตกลงมาเป็นวิทยากรสอน Latte Art Workshop ให้กับเราภายในงาน โดยแบงค์ ถือเป็นหนึ่งในบาริสต้ารุ่นใหม่ อนาคตไกลของไทย ที่ประสบความสำเร็จบนเวทีโลก ด้วยความมุ่งมั่น ความคิดสร้างสรรค์ บุคลิกเฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใคร สไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ และความหลงใหลในกาแฟ ไม่เพียงแต่ทำให้แบงค์ กลายเป็นต้นแบบให้กับบาริสต้ารุ่นใหม่เท่านั้น แต่ยังสร้างความประทับใจให้กับคณะกรรมการทั้งในประเทศและต่างประเทศอีกด้วย

“ผมเริ่มต้นจากเป็นพนักงานร้านกาแฟ แล้วได้เห็นพนักงานคนอื่นทำลาเต้อาร์ตก็เลยอยากทำบ้าง เพราะการทำลาเต้อาร์ตมันเหมือนการเล่าเรื่องผ่านรูป เราก็เลยชอบ ช่วงแรกก็ยังทำไม่ได้ แล้วด้วยความที่นิสัยเราเป็นคนไม่ยอมแพ้ ก็เลยอยากทำให้ได้ ก็ไปค้นหาข้อมูล ว่ามันทำอย่างไร แล้วก็เริ่มฝึกมาเรื่อย ๆ เริ่มจากลายพื้นฐานอย่างลายหัวใจ ลายทิวลิป Rosetta พอทำลายพื้นฐานได้ก็เริ่มครีเอทลายที่เกิดจากการนำลายพวกนี้มาผสมกัน จนมาถึงจุดหนึ่ง ผมก็ได้รู้ว่าลาเต้อาร์ตมีการแข่งขัน ด้วยความที่ตั้งแต่เป็นเด็ก ผมชอบอะไรที่มันท้าทายก็เลยไปลงแข่ง เพราะตอนนั้นผมเทได้สวยที่สุดในร้านล่ะ ก็มั่นใจในระดับหนึ่งแต่ปรากฏว่าลงแข่งครั้งแรกก็ตกรอบแรกเลย”

แน่นอนว่าการเข้าร่วมแข่งขันแต่ละเวที ย่อมมีทั้งความพ่ายแพ้และชัยชนะแต่การรับมือกับความพ่ายแพ้ เพื่อนำมาพัฒนาและปรับปรุงตัวเองต่างหาก ที่เป็นตัวกำหนดตัวตนของเขา จนนำมาสู่ความสำเร็จในวันนี้ได้

“ถามว่าตอนนั้นเสียใจไหม เจ็บใจมากกว่า เพราะตอนนั้นเราคิดว่าเราทำได้ดีแล้ว แต่พอได้ไปลงสนามแข่ง เราก็เลยได้รู้ว่ามันคนละเรื่องกับที่เทในร้านเลย เราได้เห็นคนที่เขาเทเก่งกว่าเรา ทำสวยกว่าเรา ด้วยความที่เราเป็นคนชอบเอาชนะ เราก็เลยแบบ ถ้าเขาทำได้ เราก็ต้องทำได้สิ เราก็เลยเริ่มฝึกซ้อม และลงแข่งไปเรื่อย ๆ ในช่วงแรก ๆ ผมซ้อมหนักมาก หนักชนิดที่บางวันแทบไม่ได้นอน แต่เป็นการซ้อมเทแบบไม่มีแบบแผน เราก็เลยไม่รู้ว่าที่ซ้อมไป มันได้ผลมากแค่ไหน

จนกระทั่งมาถึงจุดหนึ่ง ในช่วงที่ซ้อมแข่งนี่แหละ ผมก็เริ่มเข้าใจว่า คนที่เขาแข่งแล้วเขาชนะ เขาทำอย่างไร ตอนแรกผมไม่เข้าใจว่าซ้อมหนักคืออะไร เพราะที่ผมทำผมก็ว่าผมซ้อมหนักแล้วนะ จนได้มีโอกาสไปเจอแชมป์โลก ได้คุยกับเขา และได้รู้ถึงวิธีฝึกซ้อมของเขา เราก็เลยได้รู้ว่า คำว่าซ้อมหนักของเรา มันแค่ขี้เล็บเขาเท่านั้น

พอได้รู้แบบนั้น ผมก็เลยวางแผนการซ้อมใหม่ เพราะการซ้อมให้ได้ผลมากที่สุดคือต้องมีแบบแผน คือจู่ ๆ เดินมาเปิดเครื่อง เทลาเต้อาร์ตแบบไม่มีจุดหมายปลายทางอะไรเลย มันไม่ได้ผลหรอก ดังนั้น อย่างแรกเลยเราต้องรู้ก่อนว่าเราต้องการอะไร แล้วสมรรถภาพทางร่างกายของเราอยู่ในจุดไหน มันเหมือนกับการซ่อมแข่งกีฬา ที่ทั้งร่างกายและจิตใจมันต้องไปพร้อม ๆ กัน ที่สำคัญคือพื้นฐานต้องแน่น เราจะฝืนข้ามขั้นไม่ได้ บางทีมันจะมีลายที่เราอยากเทให้ได้ แต่ตอนนั้นสกิลเราในตอนนั้นอาจจะยังไปไม่ถึง มันเหมือนกับเราเพิ่งเริ่มเล่นเวทเทรนนิ่งใหม่ ๆ เราข้ามไปยก 20 กิโลแบบนั้นเลยมันก็ไม่ได้จริงไหม เพราะฉะนั้นเราต้องค่อย ๆ เป็น ค่อย ๆ ไป ผมเริ่มจากการซ้อมแบบแบ่งเป็นเซต เซตละ 5 แก้ว จากนั้นพัก 10 นาที เพื่อดูว่า 5 แก้วที่เทไปมันเป็นอย่างไรบ้าง ต้องปรับแก้ตรงไหนอีกรึเปล่า เราก็เทลายนี้ในครั้งต่อไปโดยปรับไปเรื่อย ๆ เทลายเดิม ๆ จนได้ลายที่มันไม่มีที่ติ”

อีกหนึ่งเคล็ดลับการเทลายลาเต้ของแบงค์ คือฝึกการเทลายพื้นฐาน อย่างลายหัวใจ ทิวลิป และ Rosetta ให้แม่นยำและมีจุดผิดพลาดน้อยที่สุด เพราะลวดลายเหล่านี้ ถือเป็นพื้นฐานสำคัญในการสร้างสรรค์ลวดลายที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่บาริสต้ามือใหม่หลายคนมักมองข้าม

" อย่างแรกเลยเราต้องรู้ก่อนว่าเราต้องการอะไร แล้วสมรรถภาพทางร่างกายของเราอยู่ในจุดไหน มันเหมือนกับการซ่อมแข่งกีฬา ที่ทั้งร่างกายและจิตใจมันต้องไปพร้อม ๆ กัน ที่สำคัญคือพื้นฐานต้องแน่น เราจะฝืนข้ามขั้นไม่ได้ "

“เราต้องเริ่มจากพื้นฐานให้แน่นก่อน หลายคนชอบคิดว่าเราซ้อมลายพื้นฐานแค่นิดเดียวก็พอ แล้วข้ามไปซ้อมลายที่ยากเลย ผมมีโอกาสได้คุยกับแชมป์หลาย ๆ คน เขาบอกว่าจริง ๆ การซ้อมลายพื้นฐานเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะลายยาก ๆ ล้วนเกิดจากลวดลายพื้นฐานง่าย ๆ พวกนี้แหละ ดังนั้นเราจึงต้องถามตัวเองก่อน ว่าเราทำลายพื้นฐานพวกนี้ได้ดีรึยัง อย่างพึ่งข้ามขั้นไป ถ้าลายพวกนี้เรายังทำได้ไม่ดี คือการเทลายพื้นฐานอย่างลายรูปหัวใจ หรือ Rosetta ซ้ำ ๆ มันอาจจะน่าเบื่อ แต่ถ้าคุณสามารถทำมันออกมาได้ดี เวลาที่คุณก้าวไปในขั้นตอนต่อไป มันจะง่ายขึ้นมาก เพราะคุณจะสามารถเข้าใจเรื่องเนื้อสัมผัสของนม ความเร็วในการเท และตำแหน่งได้ดียิ่งขึ้น พอพื้นฐานเราแน่นแล้ว เราก็สามารถทำสิ่งที่ยากขึ้นไปได้ง่ายขึ้น

ตรงกันข้าม ถ้าพื้นฐานไม่แน่น แล้วข้ามไปทำสิ่งที่ยากเลย ทำได้ครับ แต่ทำได้ดีรึเปล่า อาจจะมีฟลุ๊คเทสวยได้สักแก้ว แต่แก้วอื่นจะสวยได้แบบนั้นหรือเปล่าคือหากคุณอยากไปแข่งลาเต้อาร์ต เวลาเทแพทเทิร์นอะไรก็ตาม ถ้าเท 10 แก้ว ให้มันสวยให้ได้สัก 9 แก้ว คือให้มันเพอร์เฟคไป 90% ก่อนถึงจะใช่ได้ ดีที่สุดคือสมบูรณ์แบบทั้ง 10 แก้วเลย ซึ่งการจะทำแบบนั้นได้ พื้นฐานมันต้องแน่นก่อน คุณจึงจะสามารถเทลายได้เพอร์เฟคขนาดนั้น”

นับเป็นความคิดและทัศนคติ ที่สะท้อนให้เห็นความสำเร็จของคนที่เป็นแชมป์เปี้ยนได้อย่างชัดเจน ที่แม้จะต้องเผชิญกับความท้าทายมากมาย แม้กระทั่งในช่วงเวลาที่พ่ายแพ้ แต่เขาก็สามารถก้าวผ่าน และประสบความสำเร็จมาครั้งแล้วครั้งเล่า โดยแบงค์มักจะพูดอยู่เสมอว่า คู่แข่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขาไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นตัวเขาเอง ด้วยเหตุนั้น เขาจึงก้าวต่อไปอย่างไม่หยุดนิ่งบนถนนสายที่ท้าทาย ไปพร้อม ๆ กับการทดสอบทักษะ ความสามารถ ที่ไม่เพียงแต่ได้รับการยอมรับบนเวทีการแข่งขันเท่านั้น แต่ยังปรากฏอยู่ในกาแฟทุกแก้วที่เขาเสิร์ฟให้กับลูกค้า ที่มีความหลงใหลในสิ่งเดียวกัน ด้วยความรัก และศรัทธาในสิ่งที่ทำ เขาจึงทุ่มเทอย่างเต็มที่ในทุกแก้ว ไม่น่าแปลกใจเลยว่า ในวงการกาแฟบาริสต้าหนุ่มคนนี้จึงได้รับการยอมรับ ไม่น้อยไปจากเพื่อนพ้องในวงการเดียวกันเลย

การซ้อมลายพื้นฐานเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะลายยาก ๆ ล้วนเกิดจากลวดลายพื้นฐานง่าย ๆ พวกนี้แหละ ดังนั้นเราจึงต้องถามตัวเองก่อน ว่าเราทำลายพื้นฐานพวกนี้ได้ดีรึยัง อย่างพึ่งข้ามขั้นไป ถ้าลายพวกนี้เรายังทำได้ไม่ดี

---

Coffee Traveler

เป็นนิตยสารรายสองเดือน ที่จัดพิมพ์ขึ้นเพื่อเป็นการส่งผ่านความรู้ทางด้านกาแฟ

และเสริมมุมความคิดในด้านธุรกิจกาแฟ

- - -

สมัครสมาชิกนิตยสารได้ที่ : IN BOX Facebook Coffee Traveler

Instagram : coffeetraveler_magazine

Youtube : Coffee Traveler

Blockdit : I am Coffee Traveler / coffeetravelermag