top of page

Nuttawat Muangsiri • คุณณัฐ ณัฐวัชร์ ม่วงศิริ

Managing Director at Espresso Academy SCA Premier Training Campus Thailand

โลกของกาแฟไม่มีถูกผิด และยังมีอะไรให้เรียนรู้อีกมาก


คนคนหนึ่งจะสามารถรอบรู้และเชี่ยวชาญเรื่องต่างๆ ได้มากสักกี่อย่าง


หลายครั้งที่เรามักจะได้เห็นคนเก่งที่ไม่เพียงรอบรู้อย่างเดียว หากแต่ยังมีความรู้ไปจนถึงเชี่ยวชาญในเรื่องต่างๆ ที่เขาสนใจอย่างลึกซึ้ง ซึ่งคุณณัฐวัชร์ ม่วงศิริ หรือคุณณัฐคือหนึ่งในบุคคลของวงการกาแฟที่เรากำลังพูดถึง ด้วยจำนวนขวบปีที่เข้าสู่วงการกาแฟมาไม่มากแต่ก็ไม่น้อย หากแต่มีความรู้ที่หลากหลาย เป็นบุคคลที่มีหลักคิดเรื่องกาแฟอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ที่น่าสนใจ


จากสถาปนิกทำงานออกแบบ สู่สายงานด้าน Hospitality Management มีประสบการณ์เกี่ยวกับงานด้านการบริหารโรงแรม เป็นอาจารย์สอนสถาปัตย์ฯ เป็นนักบิน เคยทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟในร้านอาหาร ทำอาหารได้ ทำขนมเป็น และรักการถ่ายรูป ทั้งหมดนี้คือความสามารถของคุณณัฐ



เราเข้าวงการกาแฟในฝั่ง Operator เราจบสถาปัตย์ฯ ที่อเมริกา ทำงานด้านออกแบบ แต่ก่อนหน้านี้เราเคยเป็นเด็กเสิร์ฟในร้านอาหารมาก่อน เพราะฉะนั้น เราจึงอยู่ในเรื่องของ service มาตลอด จากนั้นเราก็ไปอยู่ในสายงานด้าน Hospitality management กลับมาเมืองไทยก็ได้ทำงานด้านการบริหารโรงแรมอยู่ 3 - 4 ปี จากนั้นได้ไปเป็นอาจารย์สอนสถาปัตย์ฯ ที่จุฬาฯ แล้วสอบนักบินก็ไปเป็นนักบินประจำ


ตอนที่เราเป็นนักบิน มันก็เกิดความคิดว่าอยากเปิดร้านกาแฟ เราก็เลยเปิดร้านกาแฟ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมบอกเลยว่าคิดผิด เพราะว่ามันทำให้เราอยากเรียนรู้มากกว่าเดิม ตอนนั้นเราเข้าใจว่ากาแฟมันเป็นเรื่องธรรมดามาก มีพื้นที่ 50 ตร.ม. ก็น่าจะทำร้านกาแฟได้ กินกาแฟก็ไม่เป็น แต่คิดว่ามันไม่น่ายาก เราออกแบบ เราดีไซน์ได้ เราบริหารจัดการได้ และเราก็คิดว่ากาแฟมันไม่น่ายาก จนทุกวันนี้เรายังเรียนไม่จบเลย เรื่องกาแฟ (หัวเราะ)”


เราออกแบบ เราดีไซน์ได้ เราบริหารจัดการได้ และเราก็คิดว่ากาแฟมันไม่น่ายาก

จนทุกวันนี้เรายังเรียนไม่จบเลย เรื่องกาแฟ


ในขณะที่สวมบทบาทเป็นสถาปนิกก็เชี่ยวชาญจนได้เป็นอาจารย์ งานอดิเรกคือการถ่ายภาพก็ทำจนส่งภาพเข้าประกวดและได้รางวัลชนะเลิศ เมื่อไปสอบนักบินก็ได้ทำเป็นอาชีพประจำที่จนปัจจุบันก็ยังคงเตรียมพร้อมร่างกายให้สามารถออกบินได้ตลอดเวลา และเมื่อพลาดพลั้งก้าวขาเข้าสู่วงการกาแฟแล้ว นิสัยความอยากรู้อยากเห็นและสนุกกับการเรียนรู้ ทำให้คุณณัฐเริ่มลงลึกเรื่องกาแฟมากขึ้นเรื่อยๆ จนอยากฝากบอกกับคนรักกาแฟทั้งหลายว่า “กาแฟมันเยอะและลึก ถ้าคุณไม่พร้อม คุณอย่าเข้ามาในวงการนี้”


“เราโชคดีที่ได้เป็นนักบิน เพราะมันทำให้เราได้เห็นวัฒนธรรมการดื่มกาแฟของหลายประเทศ เราได้เห็นและเข้าใจการเปลี่ยนแปลงของคนอื่น แต่การที่เราเข้าใจคนอื่นก็ไม่ได้เข้าใจเหมือนเรา บางอย่างเราพูดไปคนอื่นก็อาจจะไม่เชื่อ”



ความรู้แบบ SCA จาก Espresso Academy ฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี

ก่อนจะเปิดร้านกาแฟร้านแรกในปี 2016 คุณณัฐได้เดินทางไปเรียนรู้เรื่องกาแฟที่ Espresso Academy ณ เมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลีใน 5 หลักสูตร ได้แก่ Junior Barista, Master Barista, Home Brewing, Cupping & Testing และ Roasting


“ตอนนั้นเราไปเรียนเพื่อจะมาเปิดร้านกาแฟ แล้วเราก็เจอว่า มันมีคำว่า SCA คืออะไรเราก็ไม่รู้ อ๋อ มันมีหลักการทางวิทยาศาสตร์ในการสกัดกาแฟ ถ้าอย่างนี้เราเริ่มสนุกแล้ว เพราะจริงๆ เราชอบทางวิทยาศาสตร์ เราเรียนหมดเลยที่อิตาลี เรียนหนักมาก และเรามีความสุขกับการได้เรียน เราซักถามตลอด ถามจนอาจารย์บอกว่าเราถามเยอะมาก แล้วเราก็สอบ SCA จากเมืองนอก”


จุดเริ่มต้นความสนใจ การสั่งสมความรู้และประสบการณ์ในโลกกาแฟของคุณณัฐจึงได้เริ่มต้นขึ้น

จากร้านกาแฟเล็กๆ ขนาด 50 ตารางเมตร คุณณัฐค่อยๆ เรียนรู้และเติบโตในวงการกาแฟอย่างเงียบๆ พาตัวเองไปแข่งขันในเวทีต่างๆ เพื่อหาความรู้ หาประสบการณ์ และหามิตรภาพในวงการกาแฟ พร้อมกับเรียนรู้เรื่องราวต่างๆ ของกาแฟมากขึ้นเรื่อยๆ จากบาริสต้าและเจ้าของร้านกาแฟ ปัจจุบันคุณณัฐกลายเป็นเทรนเนอร์และเจ้าของสถาบัน Espresso Academy Thailand ที่ให้ความรู้เรื่องกาแฟแก่บุคคลทั่วไปจนถึงองค์กรขนาดใหญ่ทั้งในประเทศและต่างประเทศ



“ตอนนั้นเราไปแข่งกาแฟแล้วได้รางวัล ทุกคนก็เลยอยากให้เราสอน เราก็ไม่รู้ว่าจะสอนอะไร เขาอยากให้สอนแบบ SCA แต่เราก็ไม่มีใบรับรองการสอนอะไรเลย ก็เลยเชิญ Helena Oliviero ซึ่งเป็นคนของ SCA ที่จะเดินทางมาประเทศไทยอยู่แล้วให้มาช่วยสอน กลุ่มแรกที่เทรนด์ต้องเรียกว่าเป็น Secret Society เลย เราต้องแอบเรียนเพราะราคามันถูกกว่าเมืองไทยครึ่งหนึ่ง และเราก็เกรงใจอาจารย์ท่านอื่นๆ ในไทยด้วย ตอนนั้นเทรนด์กัน 10 กว่าคน ซึ่งบุคคลเหล่านั้นก็เติบโตและมีชื่อเสียงขึ้นมาในวงการกาแฟปัจจุบัน


หลังๆ Helena เริ่มไม่ว่าง เขาก็บอกให้เราเทรนด์เองได้ไหม แต่เราไม่ได้ถนัดในสิ่งที่เขาถนัด ก็เลยไปเรียน AST (Authorized SCA Trainers) เพิ่มที่สิงคโปร์ จึงได้เริ่มสอนไปเรื่อยๆ เป็นบาริสต้าไปเรื่อยๆ และก็ยังเป็นนักบินอยู่ เพราะฉะนั้นเรื่องของเราก็จะเป็นเรื่องแบบปากต่อปาก ค่อยๆ โตแบบเงียบๆ


คนที่มาเรียนกับเราคือกรรมการที่ตัดสินในเวทีต่างๆ ซึ่งมันก็เป็นสิ่งที่ทำให้เรารู้สึกภูมิใจ เราเคยถามว่าทำไมเขามาเรียนกับเรา เขาบอกว่าเขาชอบวิธีการวางแผนของเรา อยากเข้าใจว่าอะไรทำให้เราคิดแบบนั้นแบบนี้ เป็นเทคนิคที่เขาอยากเรียนรู้จากเรา ซึ่งมันก็เป็นสิ่งที่เราเคยเรียนมา”



Espresso Academy Thailand เปิดสอนหลักสูตรเช่นเดียวกับ Espresso Academy Florence โดยมี 5 หลักสูตรหลัก ได้แก่ Junior Barista Course, Master Barista Course + Latte Art, Coffee Brewing Course, Coffee Tasting and Cupping Course และ Coffee Roasting and Blending Course นอกจากนี้ยังมีหลักสูตรของ SCA (Specialty Coffee Association) ได้แก่ Barista Skills, Brewing Skills, Sensory Skills, Roasting Skills และ Green Coffee


คุณณัฐคือบุคคลที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับใครบางคนที่อาจกำลังตั้งคำถามถึงความสนใจอันหลากหลายของตัวเอง หากเราสนใจและพัฒนาความรู้เรื่องนั้นอย่างจริงจัง ไม่ละทิ้งความอยากรู้อยากเห็นและอยากทดลอง จากความรู้ที่หลายคนบอกว่าเหมือนเป็ด อาจตกผลึกจนทำให้เรากลายเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านใดด้านหนึ่งอย่างไม่รู้ตัวก็ได้


“เราก็ได้ใช้ทุกสิ่งที่เราเรียนรู้มา ทั้งเรื่องการออกแบบ การดีไซน์ Hospitality Management Customer Service ในการสอน เรามักจะชอบบอกว่ากาแฟอร่อยไม่อร่อยมันอยู่ที่การบริการมากกว่า แม้ว่าเครื่องดื่มอาจจะยังไม่ค่อยดี แต่เราสามารถทำให้ลูกค้าประทับใจก็ได้ แต่ถ้าเครื่องดื่มคุณอร่อยมาก แต่บริการคุณไม่ดี ก็ไม่มีใครกิน เราก็พยายามจะเทรนด์ทุกคนว่ามันอยู่ที่ Customer Service ด้วย”


เรามีหน้าที่ผลักดันให้วงการกาแฟเติบโตไม่ว่าจะไปทิศทางไหนก็ตาม

เพราะมันไม่มีถูกผิด การเป็นเทรนเนอร์ คือ ผู้ให้ สิ่งที่เราทำ

ก็เพื่อก่อให้เกิดประโยชน์ส่วนรวม เพื่อให้เกิด Coffee Community



เพราะโลกของกาแฟยังมีอะไรที่เราไม่รู้อีกมาก

แม้จะเริ่มเป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับในวงการกาแฟ แต่คุณณัฐก็ยืนยันว่าโลกของกาแฟยังมีอะไรที่ต้องเรียนรู้อีกมาก และสามารถเรียนรู้ได้อย่างไม่สิ้นสุด เช่นเดียวกับทุกเรื่องบนโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย ความรู้บางอย่าง ทฤษฎีบางตำรา งานวิจัยบางเล่มที่เคยทำมาในอดีต อาจไม่เหมาะหรือไม่ถูกต้องในโลกปัจจุบัน


“การที่เราเป็นเทรนเนอร์มันไม่ได้แปลว่าเราเก่งที่สุด เพราะเราเองก็ต้องเรียนรู้ไปด้วยว่าสิ่งที่เราสอนหรือส่งต่อให้เขามันถูกต้องไหม หรือมันยังถูกต้องอยู่หรือไม่ มันไม่ใช่ว่าฉันจบแล้ว ฉันไม่ต้องเรียนเพิ่มแล้ว ปัจจุบันเราเองก็ยังทำงานมาเรื่อยๆ ค่อยๆ เรียนรู้ไป เพราะโลกของกาแฟยังมีอะไรที่เรายังไม่รู้อีกเยอะมาก”


ไม่เพียงทำหน้าที่เป็นเทรนเนอร์ให้กับคนอื่น แต่ยังเป็นเทรนเนอร์ให้กับตัวเองอยู่เสมอ และยังมีความฝันที่จะนำพากาแฟไทยให้ชาวโลกได้รู้จักมากขึ้น ผ่านการลงแข่งในเวทีระดับโลกต่างๆ


“เรายังอยากแข่งกาแฟอยู่ อยากลงแข่งเพื่ออยากไปกาแฟโลกและไปชนะด้วยกาแฟไทย เราอยากพรีเซนต์ความเป็นไทย ความดีงามของกาแฟไทย ผมเชื่อว่าถ้าเราเข้าใจวิทยาศาสตร์ของกาแฟ เราจะสามารถทำกาแฟที่ดีได้”


อีกหนึ่งบทบาทก็ยังคงทำมันอย่างเต็มที่ด้วยความเชื่อว่าจะช่วยผลักดันให้วงการกาแฟไทยไม่หยุดพัฒนา ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง


“เรามีหน้าที่ disrupt (หัวเราะ) มันคือสิ่งที่เราทำ และเป็นสิ่งที่เราต้องทำจริงๆ เราค่อนข้างจะเห็นต่างกับคนอื่นเยอะมากเพราะเราเห็นมาเยอะ ผมอยากเปลี่ยน mind set ใหม่ๆ ให้วงการกาแฟ เรามีหน้าที่ผลักดันให้วงการกาแฟเติบโตไม่ว่าจะไปทิศทางไหนก็ตาม เพราะมันไม่มีถูกผิด การเป็นเทรนเนอร์ คือ ผู้ให้ สิ่งที่เราทำก็เพื่อก่อให้เกิดประโยชน์ส่วนรวม เพื่อให้เกิด Coffee Community แม้ว่าคนที่เคยเรียนกับเราจะไปเปิดโรงเรียนหรือสถาบันสอนเอง เราก็มองว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะมันจะทำให้วงการกาแฟโตขึ้นเรื่อยๆ”


ปิดท้ายด้วยหน้าที่สำคัญที่ไม่สามารถลาออกได้ นั่นก็คือบทบาทของหัวหน้าครอบครัวที่คุณณัฐเองก็ทำมันอย่างเต็มที่ งานนี้ไม่ยาก แต่ก็ไม่ง่าย และไม่มีวันหมดสิ้นเช่นเดียวกับการหาความรู้เรื่องกาแฟ และความฝันสูงสุดของอาชีพนี้ก็คือ “ได้ทำงานให้เต็มที่ที่สุด และกลับบ้านไปอยู่กับครอบครัว”


 

Coffee Traveler

เป็นนิตยสารรายสองเดือน ที่จัดพิมพ์ขึ้นเพื่อเป็นการส่งผ่านความรู้ทางด้านกาแฟ

และเสริมมุมความคิดในด้านธุรกิจกาแฟ

- - -

สมัครสมาชิกนิตยสารได้ที่ : IN BOX Facebook Coffee Traveler

Youtube : Coffee Traveler

278 views0 comments
bottom of page