โอมากาเสะ (Omakase) คืออะไร ทำไมถึงกำลังจะกลายเป็นไลฟ์สไตล์ใหม่ในยุคนี้ ขอเล่าถึงคำว่าโอมากาเสะกันก่อน มันเป็นวลีของคำในภาษาญี่ปุ่นซึ่งแปลได้ว่า “ฉันขอมอบความไว้วางใจให้กับคุณ” หรือวิถีการทานอาหารตามใจเชฟ มันคือรูปแบบของการเสิร์ฟอาหารของประเทศญี่ปุ่น โดยที่เชฟจะทำหน้าที่จัดสรร คัดเลือกวัตถุดิบที่ต้องการนำเสนอเมนู เพื่อเสิร์ฟสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า วัฒนธรรมของโอมากาเสะถูกเล่าต่อกันมาว่ามีต้นกำเนิดมาจากร้านซูชิ ซึ่งคำว่าโอมากาเสะเป็นที่นิยมมากขึ้นในปี ค.ศ.1990 เนื่องจากในสมัยก่อน การรับประทานซูชิเป็นวัฒนธรรมชั้นสูง ผู้คนเข้าถึงได้ยาก แต่หลังจากเกิดเหตุการณ์เศรษฐกิจฟองสบู่ขึ้นในประเทศญี่ปุ่นช่วงระหว่างปี 1986 ถึง 1991 กลายเป็นว่าผู้คนมีกำลังซื้อมากขึ้น ทำให้เกิดความนิยมเข้าร้านซูชิระดับไฮเอนด์มากขึ้น แต่เพราะความไม่มีความรู้เรื่องของปลาและวัตถุดิบอื่นๆ ที่นำมาทำอาหารของผู้ใช้บริการ ทำให้การสั่งอาหารเป็นเรื่องยาก พวกเขาเลยมอบความไว้ใจให้กับเชฟที่จะสร้างสรรค์เมนูมาให้พวกเขาได้รับประทานกัน นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นของวิถีโอมากาเสะ
การรับประทานตามแบบโอมากาเสะสักหนึ่งคอร์ส ทำให้เรารับรู้เรื่องราวของวัฒนธรรมของคนญี่ปุ่น มันเป็นเรื่องของความพิเศษเฉพาะ มันเกิดขึ้นเมื่อผู้คนที่มานั่งรับประทานอาหาร เพื่อที่จะมองเห็นเชฟทำอาหาร ที่แสดงถึงความใส่ใจ และความพิเศษของวัตถุดิบ การได้พูดคุยกับเชฟทำให้รู้ที่มาของแหล่งวัตถุดิบ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการนำวัตถุดิบตามฤดูกาลและวัตถุดิบระดับพรีเมี่ยมมาใช้ในการปรุงเมนู เชฟจะเรียงลำดับมาให้ตามความเหมาะสม เพื่อให้ได้สัมผัสถึงรสชาติของแต่ละคำที่ดีที่สุด
นอกจากเรื่องของรสชาติ มันยังเป็นเรื่องของการออกแบบพื้นที่ที่ทำให้ครัวหรือพื้นที่ในการปรุงอาหารกลายเป็นพื้นที่เปิดเผยได้ มันจึงเป็นรูปแบบของการโชว์แบบหนึ่ง เสมือนการทำการแสดงศิลปะ เป็นการรับประทานเพื่อเสพศิลปะและรสชาติของอาหารที่แท้จริง
ในภายหลังระบบโอมากาเสะก็ได้ถือกำเนิดขึ้นในวงการต่างๆ เช่น ร้านอาหารบางร้านก็เพิ่มโอมากาเสะเข้าไปในเมนูอาหาร ลูกค้าไม่ต้องคิดเองว่าอยากจะทานอะไรในทุกๆ มื้ออาหาร, ไวน์โอมากาเสะ, ค็อกเทลโอมากาเสะ, แฟชั่น โอมากาเสะ, ทรงผมโอมากาเสะในร้านทำผม, จุดหมายปลายทางของ Omakase Mystery Tour, รวมไปถึงโลกของกาแฟก็นำระบบโอมากาเสะเข้ามาใช้ เพราะมันไม่ได้ถูกจำกัดอยู่ในแค่วงการซูชิเท่านั้น โอมากาเสะคำนี้สามารถใช้สำหรับการไว้วางใจให้กับผู้เชี่ยวชาญได้มอบประสบการณ์ใหม่ๆ ให้ผู้รับบริการได้
Omakase Coffee ถือเป็นคลื่นลูกที่สามของวงการกาแฟ (third wave coffee) เพราะการดื่มกาแฟของผู้คนในยุคสมัยนี้ได้เปลี่ยนไปจากยุคเดิมที่ดื่มกาแฟง่ายๆ อะไรก็ได้ แต่ในยุคสมัยนี้ ผู้บริโภคจะต้องรู้สึกพิเศษในการดื่มกาแฟ มันกลายเป็นการดื่มด่ำสุนทรียภาพ เข้าถึงความรู้ความเข้าใจในกระบวนการที่มาของกาแฟตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ เริ่มจากการเพาะปลูก สายพันธุ์ การแปรรูป วิธีการคั่ว และขั้นตอนต่างๆ ในการเตรียมกาแฟ รวมไปถึงการไว้วางใจบาริสต้า และเชื่อใจในทักษะฝีมือของเหล่าบาริสต้า
กาแฟโอมากาเสะโดยส่วนใหญ่จะเป็นรูปแบบของ Slow Bar
เป็นการชงกาแฟที่ต้องใช้ฝีมือแบบแก้วต่อแก้ว ใช้ศาสตร์และศิลป์
นำเสนอเมล็ดของแต่ละท้องถิ่น อธิบายได้ถึงรสชาติและกลิ่น
อันเป็นเอกลักษณ์พิเศษของแต่ละสายพันธุ์
กาแฟโอมากาเสะโดยส่วนใหญ่จะเป็นรูปแบบของ Slow Bar เป็นการชงกาแฟที่ต้องใช้ฝีมือแบบแก้วต่อแก้ว ใช้ศาสตร์และศิลป์ นำเสนอเมล็ดของแต่ละท้องถิ่น อธิบายได้ถึงรสชาติและกลิ่นอันเป็นเอกลักษณ์พิเศษของแต่ละสายพันธุ์ ที่ซึ่งมีความแตกต่างกัน กาแฟแต่ละแก้วจะถูกถ่ายทอดจากประสบการณ์ จากความเชี่ยวชาญ จากเทคนิคต่างๆ ที่ถูกสั่งสมมาในตัวของบาริสต้า ซึ่งในส่วนของลูกค้าเองก็จะยังไม่รู้ว่าบาริสต้าจะชงกาแฟแบบไหน บาริสต้จะรังสรรค์กาแฟแต่ละแก้วออกมาอย่างไร ตรงนี้แหละที่เป็นความน่าสนใจ ความน่าตื่นเต้น ความสนุกสนานในการดื่ม เพราะจะรู้ก็ต่อเมื่อกาแฟแก้วนั้นมาเสิร์ฟและได้ลองดื่ม ซึ่งมันจนเกิดความประทับใจต่อแก้วนั้นๆ
หากพูดถึงคาเฟ่ Omakase coffee หนึ่งในนั้นต้องมีร้าน Hario cafe Bangkok สาขา 2 ร้านนี้ตั้งอยู่ที่ตึกธนิยะ พลาซ่าสถานที่ซึ่งเป็น Community ของคนรักกาแฟสามารถเข้ามาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการดื่มกาแฟและเลือกซื้ออุปกรณ์การทำกาแฟง่ายๆ ด้วยตัวเองได้
หากพูดถึงคาเฟ่ Omakase coffee
หนึ่งในนั้นต้องมีร้าน Hario cafe Bangkok สาขา 2
ร้านนี้ตั้งอยู่ที่ตึกธนิยะ พลาซ่าสถานที่ซึ่งเป็น Community ของคนรักกาแฟ
Hario café ตกแต่งร้านด้วย Concept 4 ฤดูกาลของญี่ปุ่น ซึ่งจะแบ่งเป็นโซนๆ ไป ซึ่งสิ่งที่เพิ่มเติมมาของสาขานี้คือการมี Speed Bar เครื่อง Espresso machine เพื่อรองรับชาวออฟฟิตที่เร่งรีบ โซน Slow Bar ปกติที่จะมีทั้ง Coffee drip, Syphon, Cold drip และ Specialty tea ใบชาจากประเทศญี่ปุ่นที่จะเน้นความเป็นชามากขึ้น ส่วนเมล็ดของกาแฟก็มีความหลากหลายหมุนเวียนเปลี่ยนเมล็ดกาแฟเรื่อย ๆ เพื่อให้ลูกค้ามาแต่ละครั้งแต่ละเดือน ก็จะแตกต่างกันออกไป แล้วยังมีกาแฟ Single origin จากหลายประเทศทั่วโลก ทั้งอินโดนีเซีย โคลอมเบีย แทนซาเนีย กัวเตมาลา เป็นต้น
และส่วนสำคัญของร้านก็คือการเพิ่มบาร์กาแฟโอมากาเสะขึ้นมา โดยเมนูกาแฟโอมากาเสะจะมีทั้งหมด 4 เสิร์ฟด้วยกัน ในราคา 1,500 บาทต่อหนึ่งท่าน บาร์โอมากาเสะของ Hario café สาขา Thaniya Plaza Specialty Coffee & Slow Bar เวลา 7.00 - 20.00
โดยที่จะเสิร์ฟเฉพาะสุดยอดเมล็ดกาแฟของ Project origin ที่ถูกคัดสรรมาอย่างดี ให้ผู้รับบริการได้เพลิดเพลินและออกผจญภัยไปกับวิถีกาแฟโอมากาเสะ ปล่อยตัวปล่อยใจ มอบความไว้ใจให้กับบาริสต้าผู้เชี่ยวชาญ ค้นพบความสุขและประสบการณ์ใหม่ๆ ในการดื่ม
สำรองที่นั่งได้ที่ ร้าน Hario Cafe Bangkok Thaniya Plaza
โทรสอบถาม. 06 2595 2162
Facebook Page : HARIO CAFE Bangkok
Coffee Traveler
เป็นนิตยสารรายสองเดือน ที่จัดพิมพ์ขึ้นเพื่อเป็นการส่งผ่านความรู้ทางด้านกาแฟ
และเสริมมุมความคิดในด้านธุรกิจกาแฟ
- - -
สมัครสมาชิกนิตยสารได้ที่ : IN BOX Facebook Coffee Traveler
Instagram : coffeetraveler_magazine
Youtube : Coffee Traveler
Blockdit : I am Coffee Traveler / coffeetravelermag