Chop & Cop Café

" Chop & Cop Cafe คอมมูนิตี้สุดชิคเปิดใหม่ ย่านสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ ที่โดดเด่นด้วยความร่วมสมัยของสถาปัตยกรรม ที่เกิดจากการดึงอิฐดินเผาติดผนัง ที่เป็นโครงสร้างดั้งเดิมของตึกมาต่อยอด "

Chop & Cop Cafe คอมมูนิตี้สุดชิคเปิดใหม่ ย่านสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ ที่โดดเด่นด้วยความร่วมสมัยของสถาปัตยกรรม ที่เกิดจากการดึงอิฐดินเผาติดผนัง ที่เป็นโครงสร้างดั้งเดิมของตึกมาต่อยอด จากความตั้งใจของคุณหมอโจ้ (นพ.ภูวนัตถ์ ฝั้นมูล) ลูกหลานอำเภอสันป่าตองที่ต้องการรักษาคุณค่าทางประวัติศาสตร์ของตึกเก่านี้เอาไว้ ไปพร้อม ๆ กับการทำสิ่งที่ตัวเองรักผ่านชื่อ “Chop & Cop” ที่มีชื่อมาจากชื่อของลูกชายทั้ง 2 และมุมเบเกอรี ที่เป็นสิ่งที่ภรรยาชื่นชอบ ที่นี่จึงไม่ได้เป็นเพียงคาเฟ่ แต่เป็นดั่งตัวแทนของความรัก และความผูกพันของเจ้าของร้านกับครอบครัว โดยคุณหมอเล่าว่า เดิมทีตึกนี้เป็นอาคารพาณิชย์เก่า 3 คูหา อายุ 50 ปี ที่เคยเป็นร้านขายวัสดุก่อสร้างร้านแรก ๆ ของอำเภอสันป่าตอง โดยเมื่อก่อนชาวบ้านในอำเภอสันป่าตองและในอำเภอข้างเคียง จะต้องมาซื้อวัสดุก่อสร้างจากร้านนี้ เพราะฉะนั้นตึกนี้จึงเต็มไปด้วยเรื่องราวที่ทรงคุณค่า โดยเฉพาะกับคนเก่าคนแก่ในอำเภอ เพราะหลาย ๆ บ้านก็มาซื้อวัสดุก่อสร้างจากที่นี่เหมือนกัน

“เรียกว่าเป็นสถาปัตยกรรมร่วมสมัยก็ได้ ตอนที่ผมเข้ามาซื้อตึกนี้ ตึกมันค่อนข้างโทรมแล้ว เราจึงต้องรีโนเวทใหม่ทั้งหมด ในขณะเดียวกันก็พยายามเก็บรักษาคุณค่าความเป็นตึกนี้เอาไว้ โดยการดึงเรื่องราวของความเป็นตึกนี้ออกมาให้ชัดเจน ผสมผสานกับบริบทของพื้นที่อำเภอสันป่าตอง เช่น น้ำบ่อ (บ่อน้ำในภาษาเหนือ) ที่เป็นน้ำบ่อดั้งเดิมของตึกนี้ ซึ่งที่เราคงน้ำบ่อนี้เอาไว้ เพราะเป็นความเชื่อของคนเหนือที่ห้ามถมน้ำบ่อโดยพลการ ไม่เช่นนั้นจะเกิดความอัปมงคลได้ เราจึงเก็บมันเอาไว้ โดยทำให้เขาสวยและเข้ากันได้ดีกับตัวตึก และเปิดช่องหลังคาด้านบนน้ำบ่อให้โล่ง ซึ่งตอนแรกการมีน้ำบ่อตรงนี้ และห้ามถมมันเป็นข้อจำกัดที่ต้องแก้ไข แต่ตอนนี้ข้อจำกัดนั้น ได้กลายเป็นเอกลักษณ์โดดเด่นของเรา ทุกวันนี้ตัวน้ำบ่อนี้กลายเป็นอีกหนึ่งมุมถ่ายรูปยอดนิยมของร้าน”

นับว่าเป็นแนวคิดที่น่าสนใจ และจากความต้องการของคุณหมอโจ้ผู้เป็นโอนเนอร์ ที่ได้รับการตอบรับโดยทีมงาน ‘เมืองเอก อาคิเทค’ กลุ่มสถาปนิกจากเมืองเชียงใหม่ ที่มีผลงานทั้งในประเทศ และต่างประเทศ นำโดยคุณต่อ (วิษณุ สุปิณะ) หรือชื่อที่ทีมงานเรียกกันจนติดปากว่า ‘อ้ายเมืองเอก’ ที่มาดูแลและให้คำปรึกษาในเรื่องโครงสร้าง และเปลี่ยนตึกเก่า 3 คูหา ให้กลายเป็นคาเฟ่ที่มีสถาปัตยกรรมโดดเด่น ตั้งตระหง่านอยู่ใจกลางย่านชุมชนของอำเภอสันป่าตองได้สำเร็จ

“ผมเรียกคอนเซ็ปต์ของร้าน Chop & Cop Cafe ว่า Minimal Warmth เป็นคอนเซ็ปต์ที่เน้นไปที่การผสานความเรียบง่ายที่อบอุ่น โดยใช้วัสดุธรรมชาติและโทนสีเอิร์ธโทนเพื่อสร้างบรรยากาศที่น่าอยู่และสบายตา พร้อมทั้งตอบโจทย์การใช้งานหลากหลายรูปแบบภายในอาคารพาณิชย์เก่า 3 คูหา ที่ผ่านการรีโนเวท เพื่อคืนความมีชีวิตชีวา และสะท้อนตัวตนของครอบครัวเจ้าของร้าน โดยแบ่งพื้นที่และฟังก์ชันการใช้งานออกเป็น คลินิกแพทย์ 1 คูหา เพื่อรองรับอาชีพหลักของคุณหมอ ส่วนพื้นที่ 2 คูหาที่เหลือจะเป็นร้านกาแฟและเบเกอรี และพื้นที่ส่วนตัวชั้นบน ซึ่งจะเป็นห้องประชุมขนาดเล็ก และพื้นที่พักอาศัยของครอบครัว ที่ออกแบบให้มีความเป็นส่วนตัวและเชื่อมต่อกับธรรมชาติ

องค์ประกอบอื่น ๆ อย่างในเรื่องสี เราจะใช้สีโทนเอิร์ธโทน อย่างสีเบจ, น้ำตาลอ่อน และสีอิฐดินเผา ควบคู่ไปกับการใช้วัสดุธรรมชาติ เช่น อิฐดินเผา, ไม้เนื้อแข็ง, พื้นไม้ปาร์เก้ และคอนกรีตเปลือย เพื่อสร้างความอบอุ่นและความรู้สึกที่ได้สัมผัสธรรมชาติ ในขณะเดียวกันก็มีการใช้แสงแบบเลเยอร์ โดยผสมผสานไฟอ้อม โคมไฟแขวนและโคมไฟตั้งพื้น กับแสงธรรมชาติที่เข้ามาผ่านกระจกบานใหญ่ ส่วนพื้นที่กลางแจ้ง จะมีการจัดพื้นที่เอาท์ดอร์ในบริเวณด้านหลังร้าน มีจุดนำสายตาออกแบบเป็นบันไดวน พร้อมทั้งจัดสวนและใช้ระแนงไม้เทียมเพื่อบังแสง และเพิ่มความร่มรื่นให้กับพื้นที่”

เมื่อโครงสร้างสมบูรณ์แล้ว สิ่งที่ขาดไม่ได้อีกหนึ่งสิ่งย่อมเป็นการการออกแบบตกแต่งภายในที่โดดเด่น จากฝีมือของคุณกานต์ (กานต์ คำแหง) และคุณธนชาติ (ธนชาติ สุขสวาสดิ์) ทีมงาน pommballstudio สตูดิโอออกแบบเจ้าของผลงานคาเฟ่มากมายในจังหวัดเชียงใหม่ ที่ได้รับมอบหมายให้มาทำให้พื้นที่ในฝันของคุณหมอโจ้เป็นจริง ด้วยการสร้างมุมที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของร้าน ที่ลูกค้าสามารถมานั่งพัก ถ่ายรูป และดื่มด่ำกับประสบการณ์ได้อย่างเต็มที่ผ่าน Mood & Tone ที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น แต่ในขณะเดียวกันก็โดดเด่นและสวยงามได้อย่างน่าประทับใจ

“คาเฟ่นี้มีจุดเด่นที่ Mood และ Material จากการนำอิฐที่มีอยู่เดิม มาวางเรียงใหม่ในแพทเทิร์นที่มันต่างจากเดิม จนทำให้เกิด Mood ที่น่าสนใจ ด้านในจะมีความโค้ง เพราะเดิมทีตึกนี้เป็นรูปสี่เหลี่ยมคางหมู และขนานไปกับตัวถนนเราต้องการรูปทรงที่จะตัดความเป็นสี่เหลี่ยม จึงออกแบบบาร์ให้เป็นทรงกลม เพราะอยากทำให้โถงด้านหน้าตรงนั้นมันดูพิเศษ โดยใช้ประโยชน์จากเสาเดิมที่มันอยู่ตรงกลาง เพื่อทำให้มันเด่นขึ้น ในขณะเดียวกันก็กลมกลืน โดยการหุ้มเสาเดิมที่เป็นเสาปูนเหลี่ยม ๆ ให้ดูโค้งขึ้น และเพิ่มฟังก์ชันให้กับเสาต้นนี้ โดยด้านล่างจะเป็นบาร์กาแฟรูปทรงกลม ซึ่งจะเชื่อมไปถึงชั้นลอยที่เป็นที่นั่งที่อยู่เหนือบาร์ที่เป็นทรงกลมเหมือนกัน ความพิเศษคือ ที่นั่งตรงนั้นจะเป็นจุดที่ทำให้มองเห็นบาร์กาแฟจากมุมสูงได้อย่างชัดเจน ซึ่งความโค้งนี้ เราก็เอาไปใช้กับตัวอาคารด้านหน้าและด้านข้างให้มันดูเป็นซุ้มประตู ซึ่งจะเป็นดีไซต์ของตัวคาเฟ่ในชั้น 1 ทั้งหมด เพื่อให้มันตัดกับรูปทรงสี่เหลี่ยมคางหมูของตัวตึก

ตามความต้องการของโอเนอร์ เราพยายามจะเก็บของเก่าจากตึกเดิมให้มากที่สุด เช่น พื้นใม้ปาเก้บนชั้น 2 ที่เป็นไม้ปาเก้เก่าของตึก ซึ่งอายุมันเยอะมากประมาณ 50 ปีเท่ากับตัวตึกเลย ซึ่งเราก็ได้เอามาขัด มาทำใหม่ และเพราะไม้เป็นไม้เก่า เราจึงต้องถนอมมันไว้ เพื่อไม่ให้ผิวไม้สึกไปกว่านี้ บนชั้น 2 ตรงนั้นจึงต้องมีการถอดรองเท้าก่อนขึ้น เพื่อเป็นการรักษาผิวหน้าไม้ให้นานที่สุด ชั้นบนของตึกจะมีระแนงไม้ ซึ่งก็เป็นของเดิมเหมือนกัน แล้วก็มีอิฐดินเผาที่อยู่ตรงชั้น 2 ที่น่าจะเอามาเล่นได้ เราก็เลยเอาสิ่งเหล่านี้แหละมาต่อยอด โดยประยุกต์ให้มันดูทันสมัยมากขึ้น จนกลายเป็นดีไซต์นี้ออกมา”

Chop & Cop Café ไม่ได้เป็นคาเฟ่ แต่ยังเป็นประสบการณ์ที่สร้างสรรค์อย่างพิถีพิถันทุกองค์ประกอบ ตั้งแต่สถาปัตยกรรมไปจนถึงกลิ่นหอมของกาแฟชงสดล้วนออกแบบมาเพื่อสร้างความรู้สึกเชื่อมโยงระหว่างความทรงจำอันน่าประทับใจของเจ้าของร้านกับชุมชนโดยรอบ จึงทำให้ที่นี่เต็มไปด้วยเมนูน่าอร่อยมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเมนู Coffee Sloebar ที่รังสรรค์จากเมล็ดกาแฟสุดพิเศษอย่าง Sirimya’s Coffee ที่ให้กลิ่นองุ่นแดง ผสมผสานกับกลิ่นผลไม้และไวน์ Guatemala ที่ให้กลิ่นช็อกโกแลต ฮันนี่โทสต์ หรือแม้แต่ Costarica ที่ให้กลิ่นลาเวนเดอร์ บลูเบอร์รี และโรสแมรี และเมล็ดที่น่าสนใจอื่น ๆ อีกมากมาย ถูกใจคอกาแฟสายชอบลองของใหม่แน่นอน ซึ่งนอกจากเมล็ดพิเศษเหล่านี้แล้วทางร้านยังมีเมล็ด House Blend สูตรของทางร้านที่เกิดจากการเบลนด์ระหว่างเมล็ดไทยจากเทพเสด็จ และบราซิล เพื่อใช้สร้างสรรค์เมนูซิกเนเจอร์มากมาย

และที่ไม่พูดถึงไม่ได้ ก็คงเป็นเมนูเบเกอรีโฮมเมดของร้าน ที่หลากหลายและสร้างสรรค์ ทานคู่กับกาแฟได้พอดี ซึ่งในอนาคตแว่วมาจะมีการเปิดห้องทำเบเกอรี ให้ทุกคนสามารถชมวิธีการทำได้อย่างเต็มอิ่ม เรียกว่าเป็นแผนที่น่าสนใจและทำให้ร้านนี้ จึงกลายเป็นอีกร้านที่สายคาเฟ่ ต่างพากันมาแวะเวียนอย่างไม่ขาดสาย ทั้ง ๆ ที่พึ่งเปิดบริการได้ไม่ถึงเดือน ด้วยทุกมุมให้ความรู้สึกอบอุ่น ด้วยตัวเลือกที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและสุนทรียศาสตร์ที่เป็นธรรมชาติ Chop & Cop Cafe และเป็นสถานที่ที่การออกแบบ ความทรงจำ และชุมชนผสมผสานกันอย่างลงตัว

" เพิ่มฟังก์ชันให้กับเสาต้นนี้ โดยด้านล่างจะเป็นบาร์กาแฟรูปทรงกลม ซึ่งจะเชื่อมไปถึงชั้นลอยที่เป็นที่นั่งที่อยู่เหนือบาร์ที่เป็นทรงกลมเหมือนกัน ความพิเศษคือ ที่นั่งตรงนั้นจะเป็นจุดที่ทำให้มองเห็นบาร์กาแฟจากมุมสูงได้อย่างชัดเจน "

---

Contributor

ต่อ (วิษณุ สุปิณะ)

คุณต่อ หรือที่ทีมงานชอบเรียกกันติดปากว่า ‘อ้ายเมืองเอก’ จากทีมงาน ‘เมืองเอก อาคิเทค’ ทีมที่ปรึกษาด้านการออกแบบและก่อสร้าง ที่เกิดจากการรวมตัวกันของสถาปนิก และวิศวกรมากประสบการณ์ของจังหวัดเชียงใหม่ โดยปัจจุบันทีมเมืองเอก อาคิเทค มีผลงานการออกแบบทั้งในประเทศ และประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งโรงแรม คาเฟ่ และอื่น ๆ ภายในแนวคิด “เมืองเอก” ไม่ใช่แค่ชื่อของทีมออกแบบ แต่มันคือแนวคิดในการสร้างสิ่งที่ “พอดี” - พอดีกับคน พอดีกับพื้นที่ และพอดีกับชีวิต

กานต์ (กานต์ คำแหง), ธนชาติ (ธนชาติ สุขสวาสดิ์)

คุณกานต์ (กานต์ คำแหง) และคุณธนชาติ (ธนชาติ สุขสวาสดิ์) สองสถาปนิกจาก pommballstudio สตูดิโอออกแบบเจ้าของผลงานคาเฟ่มากมายในจังหวัดเชียงใหม่ โดยทั้งสองคนเป็นคนเชียงใหม่ ที่ย้ายไปทำงานที่กรุงเทพหลังเรียนจบ ก่อนจะกลับมาตั้งบริษัทรับออกแบบที่เชียงใหม่อีกครั้งหลังจากรู้สึกอิ่มตัว ซึ่งในปัจจุบัน pommballstudio ได้กลายเป็นหนึ่งในบริษัทรับออกแบบที่มีชื่อเสียง และเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการออกแบบร้านกาแฟและโรงแรมในจังหวัดเชียงใหม่จำนวนมาก

-----

ร้าน : Chop & Cop Café

นักออกแบบ : คุณต่อ (วิษณุ สุปิณะ), คุณกานต์ (กานต์ คำแหง), คุณธนชาติ (ธนชาติ สุขสวาสดิ์)

พิกัดร้าน : ถนนเชียงใหม่ – ฮอด ตรงข้ามกับนิยมพานิชสาขาสันป่าตอง

---

Coffee Traveler

เป็นนิตยสารรายสองเดือน ที่จัดพิมพ์ขึ้นเพื่อเป็นการส่งผ่านความรู้ทางด้านกาแฟ

และเสริมมุมความคิดในด้านธุรกิจกาแฟ

- - -

สมัครสมาชิกนิตยสารได้ที่ : IN BOX Facebook : Coffee Traveler

Instagram : coffeetraveler_magazine

Youtube : Coffee Traveler

Blockdit : I am Coffee Traveler / coffeetravelermag